
ภาพยนตร์ที่เสียดสีเรื่องการเมืองและสังคมได้อย่างเจ็บแสบ ในช่วงเวลานี้ทั่วทั้งโลกนั้นเต็มไปด้วยสถานการณ์การเมืองที่เต็มไปด้วยความคุกรุ่น เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีเพียงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นแต่มีในอีกหลายประเทศเลยทีเดียวที่มีการออกมาประท้วงหรือเรียกร้องบางสิ่งบางอย่างทางการเมืองมากยิ่งขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าการเมืองนั้นอยู่ในทุกลมหายใจของเราทุกคน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีความเกี่ยวข้องกับการเมืองและสังคม หากการเมืองดีคุณภาพของชีวิตทุกคนก็จะดีและมีสวัสดิภาพไปด้วย ในขณะเดียวกันหากการเมืองไม่ดีสิ่งที่เราจะต้องพบเจอนั้นอาจจะเป็นหายนะถึงชีวิตเลยเช่นเดียวกัน
สาเหตุที่เราต้องหยิบยกประเด็นที่หนักหน่วงขึ้นมาพูดตั้งแต่ย่อหน้าแรกก็เป็นเพราะว่าภาพยนตร์ที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้จะเป็นภาพยนตร์แนวตลกร้ายเสียดสีการเมืองและสังคมที่ทำออกมาได้อย่างเจ็บแสบจนทำให้เราต้องร้องซี๊ดตลอดการรับชมนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Don’t Look Up มันเป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย Adam Mckay ซึ่งเป็นผู้กำกับแนวเสียดสีสังคมที่เคยประสบความสำเร็จอย่างงดงามถึงขั้นมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เลยทีเดียว โดยในครั้งนี้เขาหยิบประเด็นโลกร้อนและประเด็นเกี่ยวกับการเมืองมาบอกเล่าผ่านการเสียดสีที่เต็มไปด้วยความเผ็ดร้อน
ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ขนทัพนักแสดงระดับฮอลลีวูดมารวมกันหลายคนเลยทีเดียวโดยเฉพาะนักแสดงนำอย่างลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอและเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ นักแสดงนำระดับแม่เหล็กที่ช่วยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Don’t Look Up
Don’t Look Up เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของหายนะที่ใกล้จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ มีการค้นพบว่ามีดาวหางดวงหนึ่งกำลังจะพุ่งเข้ามาชนโลกในอีกไม่นาน โดยคนที่ค้นพบนั้นเป็นนักศึกษาปริญญาในสาขาดาราศาสตร์ที่มีชื่อว่าเคทและศาสตราจารย์ด้านดาราศาสตร์ในมหาวิทยาลัยมิชิแกนอย่างแมนดี้ ทั้งสองคนนั้นรู้ตัวว่ากำลังค้นพบเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่อาจจะทำให้โลกใบนี้ดับสลายไปเลยก็ได้ทำให้พวกเขานั้นถูกเรียกตัวให้เข้าพบกับประธานาธิบดีร่วมกับด็อกเตอร์โอเกอร์ทอปเพื่อเปิดเผยความจริงให้กับสาธารณชนได้รับรู้ถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่ใกล้จะเกิดขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าประธานาธิบดีไม่ได้สนใจเรื่องของพวกเขาแต่อย่างใดและยังมองว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไรอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้นักศึกษาและศาสตราจารย์จึงต้องพยายามทำบางสิ่งบางอย่างแม้ว่ามันอาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่พวกเขาไม่คาดคิดและอาจจะทำลายชีวิตรวมไปถึงหน้าที่การงานของพวกเขาลงก็ได้ แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้รักความพยายามแต่อย่างใด พวกเขาได้เดินทางไปทั่วเพื่อเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ให้คนทั้งโลกได้รับรู้รวมไปถึงกับสื่อมวลชน แต่พวกเขากลับถูกมองข้ามและถูกปฏิเสธอย่างน่าเสียดาย เวลาของโลกใบนี้เริ่มนับถอยหลังลงทุกทีในขณะที่พวกเขากำลังถกเถียงกันอย่างหนักว่าโลกใบนี้ควรจะแตกไปเลยหรือเราจะต้องปกป้องมันกันแน่ เพราะในตอนนี้มีผู้คนมากมายที่ล้อเลียนถากถางและยังมีคนที่ต้องการจะแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าวปะปนกันไป การตอบสนองที่แปลกประหลาดของผู้คนบนโลกใบนี้ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกสับสนไม่น้อยเลยทีเดียว สุดท้ายสถานการณ์ดังกล่าวจะลงเอยอย่างไรต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Don’t Look Up
Don’t Look Up เป็นภาพยนตร์แนวตลกร้ายที่จะไม่ได้ทำให้เราหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานแต่มันจะทำให้เรารู้สึกหัวเราะในลำคอด้วยความรู้สึกขมขื่น ท่ามกลางการจิกกัดที่เจ็บแสบมันสามารถสะท้อนสังคมในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทุกวันนี้เราคิดว่าปัญหาโลกร้อนและภาวะเรือนกระจกนั้นเป็นเรื่องไกลตัวแต่ในความเป็นจริงแล้วมันได้สร้างหายนะใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด เพราะปัญหาทางมลภาวะ ปัญหาเกี่ยวกับอุณหภูมิ ปัญหาน้ำท่วม แผ่นดินไหว โคลนถล่ม ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนของเราแต่เราก็ยังคงทำเป็นไม่สนใจและทำเหมือนกับว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเรา
ขอเตือนไว้ก่อนว่าในช่วงเริ่มต้นที่เป็นการปูประเด็นนั้นภาพยนตร์จะแห้งแล้งเป็นอย่างมาก เรื่องราวออกจะน่าเบื่อด้วยซ้ำไปแต่หลังจากที่เข้าที่เข้าทางแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้จะตบหน้าเราอย่างจังจนทำให้เรานั้นต้องร้องซี๊ดตลอดการรับชมหลังจากนั้นเลยทีเดียว เพราะหลังจากนี้ภาพยนตร์จะจิกกัดทุกคนบนโลกใบนี้ไม่เว้นแม้กระทั่งเราทุกคนและกลุ่มคนที่โดนมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพและไม่สนใจปัญหาของประชาชน สอนเพียงแค่ความนิยมและคะแนนเสียงเพื่อที่จะรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้เท่านั้น นอกจากนี้ยังส่งเสริมนายทุนและวัฒนธรรมบริโภคนิยมอีกต่างหาก
