
รีวิว ปราณี หนังรักยุค 90 ของนุ๊ก ธนดล ชีวิตขมปนหวานของวัยรุ่นอีสาน
เนื้อหาท่อนเวิร์สหลักของเพลงลูกทุ่งในตำนานจาก จ่าหรอย เฮนรี่ ที่คนยุค 90s จดจำได้ดี เนื่องจากเป็นเพลงที่ฟังง่าย และมีเนื้อหาที่กินใจ และในยุค 2023 นี้ ก็ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ จนรู้สึกว่ามันจะมีอะไรน่าดูชมหรือไม่
ปราณี เล่าถึง จะเด็ด (นุ๊ก-ธนดล ศิริแวว) วัยรุ่นไทบ้านผู้ไม่เอาไหน ที่เอาแต่เที่ยวเล่น ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ไปวัน ๆ คอยเทียวตามเอาใจแฟนสาวอย่าง ปราณี (นัท-ธัญญรัตน์ บุตริน) สาวมัธยมปลายที่กำลังจะมีอนาคตสดใส โดยที่ทั้งสองกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต และความอลหม่านบันเทิงในหมู่บ้านชนบทของขอนแก่น ก็บังเกิดทั้งความสนุกและความขมขื่น
ดูไปได้สัก 5-10 นาทีแรกของเรื่อง กลับมีพลังของเนื้อเรื่องดึงดูดให้ติดตาม ผ่านการปรากฎของป๊อปคัลเจอร์ในอดีตต่าง ๆ เช่น หนังกลางแปลงในยุคสมัยที่หนังฮ่องกงกำลังเฟื่องฟู โดยเฉพาะเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตก ที่ส่งอิทธิพลต่อคนในยุคนั้นไปทั่วเอเชีย รวมถึงประเทศไทย การโทรหาคนรักผ่านตู้โทรศัพท์ของชุมชน การส่งข้อความหวาน ๆ ผ่านเพจเจอร์ การขอเพลงผ่านรายการวิทยุเพื่อส่งให้คนรัก รวมถึงเทคโนโลยีอย่างโทรทัศน์แบบมีปุ่มกด มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าคอร์ด หรือฮอนด้า NSR ที่ได้อิทธิพลมาจากผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ รวมถึงกิริยาท่าทาง ภาษาพูดและอื่น ๆ ที่ในเรื่องสร้างเป็นพื้นหลัง เลยทำให้การรับชมได้หวนนึกถึงวันวาน ของคนที่เกิดทันในยุคปี พ.ศ. 2530 (ช่วงคาบเกี่ยวระหว่าง 80s กับ 90s) และความสนุกที่โดดเด่นที่สุดคือการที่เรื่องนี้ได้ปรับเสียงบทสนทนา โดยเอาทีมงานพันธมิตรมาพากย์เสียงทับใหม่ จึงทำให้เกิดมุกตลกที่ตบไปมาอย่างสนุกสนาน รวมถึงฉากที่ขึงขังจริงจังก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ จนทำเอาผู้ชมหลายคนหัวเราะกันได้ง่ายดาย
และเนื้อเรื่องก็พาเข้าสู่ชีวิตวัยรุ่นของจะเด็ด ที่ถือเป็นตัวเอกและเป็นตัวอย่างที่วัยรุ่นอีสานชนชาวขอนแก่นในยุคนั้น และดูจะมีนัยยะผ่านทางประวัติศาสตร์ที่ว่า จะเด็ดเป็นวัยรุ่นที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษามากนัก เรียนน้อย จึงต้องทำงานใช้แรงงานเลี้ยงชีพตั้งแต่ยังวัยรุ่น ส่วนคนอย่างปราณี ที่เป็นลูกของครอบครัวผู้กิน ก็เป้นอีกคนหนึ่งที่สามารถเข้าถึงการศึกษา และด้วยความยากแค้นของคนในท้องที่ โอกาสที่มาถึง ก็ต้องรีบไขว่คว้า จะไม่ยอมให้มันเสียเปล่าไป ซึ่งตรงกับประวัติศาสตร์ชุมชนในยุคนั้นจริง ๆ ที่ว่า น้อยคนจะมีโอกาสได้ศึกษาในมหาวิทยาลัย และคนถิ่นนั้น ก็จะเล็งที่ ม.ขอนแก่น หากสอบไม่ติด ก็จะส่งไปเรียน ม.รามคำแหง เพื่อให้ทำงานไปและเรียนควบคู่ไป ซึ่งก็ตรงกับคนในยุคนั้นจริง ๆ
แม้ว่าปราณีจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบมากนัก แต่เนื้อหาที่นำเสนอนั้นก็เป็นเรื่องที่ตรงกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของอีสานชนในช่วงยุค 80s-90s ความรักของวัยรุ่นท้องถิ่น การสู้ชีวิตเพื่ออนาคตของครอบครัว จึงทำให้การรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้มองเห็นภาพและสัมผัสถึงความลึกซึ้งในเพลง ปราณี ของจ่าหรอย เฮนรี่ ที่แม้ว่าจะเก่าและกลายเป็นตำนานเพลงเพื่อชีวิตไปแล้ว แต่ชีวิตจริงที่ทั้งหวานและขมขื่นที่อยู่ในเพลงนั้น มันยังคงดำเนินต่อไป และยังคงหวังว่า ความรักของฉันยังคงมีให้อยู่เสมอ ดังอีกท่อนในเพลงที่ว่า