

ในชาตินี้ ภพ หรือขุนสมบัติบดี (โป๊ป ธนวรรธน์) เป็นผู้เชื่อในบุพเพสันนิวาสและตามจีบ แม่หญิงเกสร (เบลล่า ราณี) เพราะรูปร่างหน้าตาเหมือนกับนางในฝันที่เขาฝันถึงทุกคืน แต่เกสรไม่เชื่อในบุพเพสันนิวาส เป็นผู้หญิงหัวก้าวหน้า ร่ำเรียนวิชากับบาทหลวงปาลเลอกัวซ์ (โจนาธาน แซมซัน) รวมถึงภาษาอังกฤษ และพอเธอได้พบกับ เมธัส (ไอซ์ พาริส) เธอก็สนใจเขามากกว่า เพราะเมธัสหน้าฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษได้ และใช้ภาษาแปลกเหมือนมาจากอนาคต

เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยยุครัชกาลที่ 3 ที่ตัวละครเอกทั้งสามต้องเข้าไปพัวพัน คือ การมีบทบาทของนักธุรกิจชาวต่างชาติคนดังอย่าง นายหันแตร (แดเนียล เฟรเซอร์) เจ้าของห้างฯ แห่งแรกในประเทศไทย ที่เสมือนเป็นหนึ่งในตัวร้ายในหน้าตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ไทย เพราะมีความขัดแย้งทางการค้ากับราชสำนัก ซึ่งในหนังหมายถึง เสด็จในกรม (นนกุล ชานน) เกี่ยวกับเรือกลไฟ ‘เอ็กสเปรส’ ที่นำมาเสนอขายแก่สยามประเทศ นอกจากนี้ หนังยังมีบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทยยุคนั้นคนอื่น ๆ อีก เช่น สุนทรภู่ (นิมิตร ลักษมีพงศ์) และหมอบรัดเลย์

ในพาร์ทความรักหรือการจีบกันของพระนางเป็นพาร์ทที่เราไม่อินนัก (ถึงขั้นเบื่อและหาวเลยก็ว่าได้) รู้สึกมันไม่จำเป็นหลายฉาก เหมือนมีเพื่อเซอร์วิซแฟนคลับของคู่จิ้นหรือ ไอซ์ พาริส เสียมากกว่า ในส่วนของพาร์ทประวัติศาสตร์ ซึ่งได้ รอมแพง นักเขียนนิยายจากภาคแรก มาเป็นที่ปรึกษาด้วยนั้น เราค่อนข้างโอเค เพราะพยายามนำเสนอประวัติศาสตร์ในแง่มุมใหม่ และการตีความทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากตำราเรียน ถึงแม้ยังโลกสวยและติดราชาชาตินิยมอยู่มาก แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่หนังไทยเรื่องต่อ ๆ ไปสามารถนำจุดแข็งไปต่อยอดและพัฒนากันต่อไป
