
ในปัจจุบันปัญหาสุขภาพจิต ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง เป็นภัยเงียบที่คุกคามพวกเราอย่างไร้เสียง แน่นอนอาการป่วยทางจิตไม่ใช่เรื่องไกลตัว พวกเราทุกคนล้วนมีความทรงจำที่เจ็บปวด และบาดแผลที่หล่อหลอมจนกลายเป็นฝันร้ายที่ยากจะลบเลือนด้วยกันทั้งนั้น ฝันร้ายเหล่านั้นกลายเป็นบ่วงที่มัดปมทิ้งไว้ในใจเรา ปมที่รอคอยใครซักคนเข้ามาเพื่อคลายมันและโอบกอดความเป็นเราอย่างเข้าใจ ให้ตัวเรานั้น ‘กล้า’ ที่จะมีความสุขอย่างที่เราเคยเฝ้ารอคอยให้มันมาถึงเราในเร็ววัน

It’s Okay to Not Be Okay เป็นซีรีส์ที่หยิบยกประเด็นสุขภาพจิตมานำเสนอไปพร้อมกับการสอดแทรกวิธีการเยียวยากันและกันของตัวละครในเรื่อง ผ่านนิทานในแต่ละตอนและคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยพลังใจ และข้อคิด ทุกรายละเอียดในเรื่องถูกสรรสร้างออกมาอย่างบรรจงและประณีตได้อย่างไร้ที่ติ ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนพาเราท่องเข้าไปในโลกของนิทานที่ตัวเอกของเรื่องล้วนไม่สมบูรณ์แบบ ไม่ได้มีเพียงผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชรื่นรมย์เท่านั้นที่ต้องการการเยียวยา คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ชีวิตในโรงพยาบาลอย่างมุนคังแท (รับบทโดย คิมซูฮยอน) ผู้ดูแลในโรงพยาบาลที่ต้องดูแลพี่ชายมุนซังแท (รับบทโดย โอจองเซ) ที่เป็นออทิสติก และ โกมุนยอง (รับบทโดย ซอเยจี) นักเขียนวรรณกรรมเด็กผู้โด่งดังที่เต็มไปด้วยปมในวัยเด็ก ก็ต่างต้องการการเยียวยาด้วยเช่นกัน

ในซีรีส์สามารถเล่าประเด็นที่หนักหน่วงนี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบและนุ่มลึกทำให้เราเห็นว่าปัญหาสุขภาพจิตมันไม่ได้ไกลตัวเรา ‘คนทั่วไปในสังคม’ รวมไปถึง ‘คนใกล้ตัวเรา’ ที่เรามักจะมองข้ามเพียงเพราะเห็นว่าพวกเขาโอเคดีแต่ความเป็นจริงแล้วภายในที่เขาไม่ได้แสดงออกให้เราเห็นอาจจะไม่ได้โอเค และส่งเสียงเรียกร้องให้เราช่วยผ่านท่าทีที่ปกตินั้นก็เป็นได้